ปัญหาเศรษฐกิจ

ปัญหาเศรษฐกิจ

HTTPS://WWW.GOOGLE.CO.TH/SEARCH?

1. วิกฤติเศรษฐกิจ : ก่อน พ.ศ. 2540 เล็กน้อย คนไทยพากันกู้เงินจากต่างประเทศซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำ แทนที่จะนำมาใช้ในกิจการซึ่งช่วยกระจายรายได้ ก็นำไปฝากธนาคารในประเทศ ซึ่งให้ดอกเบี้ยสูง นำเงินมาใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เมื่อเจ้าหนี้เรียกเงินคืนก็ไม่มีเงินชำระหนี้ ในที่สุดรัฐบาลไทยจำเป็นต้องเลิกผูกเงินไว้กับเงินดอลล่าร์สหรัฐอเมริกา อัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มจาก 25 บาทกว่าเพิ่มขึ้นไปสูงมากจนจำนวนเงินหนี้เดิมสูงเกือบเท่าตัว

          เมื่อธนาคารทวงหนี้จากคนที่ยืมไปไม่ได้ทั้งดอกเบี้ยและเงินต้น จึงปรากฏคำ NPL (Non-profit loan)การกู้ยืมที่ไม่ให้ดอกผล อย่างแพร่หลาย เป็นเหตุให้ธนาคารไม่กล้าปล่อยเงินกู้ให้กิจการน้อยใหญ่และให้ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำลงเกิดศัพท์ ลัมบนฟูก คือ ล้มอย่างไม่เสียผลประโยชน์กิจการมากมายต้องปิดลงจำเป็นต้องลอยแพลูกจ้าง คนไม่มีงานทำขาดรายได้

          การหาเงินโดยไม่ชอบธรรมก็เกิดมากขึ้น คือ มีคอร์รัปชั่น

2. คอร์รัปชั่น : ใน พ .ศ. 2546 มีผู้ทำการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ในวงราชการพบว่าข้าราชการส่วนใหญ่เห็นการฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นเรื่องธรรมดา รายงานตอนสิ้นปี 2546 มีว่า “จับเจ้าหน้าที่รัฐโกงเงินหลวง 779 คดี แกะรอย 205 คดี วงเงินสูง 4.2 หมื่นล้านบาท” รัฐบาลปัจจุบันก็ประกาศแล้ว ว่าจะปราบคอร์รัปชั่นในวงราชการเพราะเป็นการเบียดบังเงินที่จะนำไปช่วยสุจริตชนและพัฒนาบ้านเมือง

         เรื่องคดีโกงระดับชาติที่ครึกโครมมีหลายเรื่อง และที่น่าสลดใจมาก คือ การโกงนมเด็ก ซึ่งจะต้องได้รับการเลี้ยงดูให้ร่างกายแข็งแรงต่อไป มีคุณภาพชีวิต จะได้เป็นผู้ช่วยดำรงชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต อีกสาเหตุหนึ่งที่มีการโกงกันมาก อาจเนื่องมาจากนิสัยชอบเล่นการพนันของคนไทย

3.การพนัน : การพนันที่คนไทยเล่นกันมีทุกรูปแบบทั้งที่กฎหมายมีว่า “อันการพนันขันต่อ หาก่อให้เกิดหนี้ไม่” เช่น พนันบอลโลกจนหมดตัว หาเงินใช้หนี้ไม่ได้ บางคนก็ฆ่าตัวตาย

         นอกจากนี้ เรายังเล่นการพนันในรูปสลากกินแบ่งของรัฐบาล คนยิ่งจนก็ยิ่งฝากความหวังให้กับโชคเลื่อนลอย เช่น หวยสลากกินแบ่ง เป็นต้น ทุ่มเทเงินทองเสี่ยงโชคจนขาดปัจจัยที่จะกินอยู่ให้สุขภาพดี                                                                                    

          หวยเกิดขึ้นในเมืองไทย เนื่องจากในสมัย ร.3 เกิดข้าวยากหมากแพง 2-3 ปี ติดต่อกัน เงินตราขาดมาก มีผู้กราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดิน ว่าดึงเงินที่ราษฎรเก็บฝังตุ่มไว้ ต้องออกหวยหวย ก.ข. จึงเริ่มมีใน พ.ศ. 2378 รัชกาลที่ 5 ทรงเห็นว่าราษฎรยิ่งเล่นยิ่งจน ทรงสั่งให้เลิกและลดจำนวน หวย ก.ข. เลิกเด็ดขาดสมัยรัชกาลที่ 6 ใน พ.ศ. 2459

         คนไทยบางกลุ่มเสียดายเงินที่ตนขนไปเล่นการพนันในต่างประเทศ อยากให้เปิดบ่อนในเมืองไทย แต่ยังไม่ปรากฏผลเพราะพุทธศาสนาห้ามในเรื่องการพนัน

อ้างอิง  

รศ. ดร. ทวีรัสมิ์ ธนาคม.(2547).เรื่องเล็ก..ที่เป็นเรื่องใหญ่.            

           พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ:ไพร์ม ทีม