ปัญหานิยมความสบาย
HTTPS://WWW.GOOGLE.CO.TH/SEARCH?
คนไทยมีชื่อว่าชอบความสะดวกสบาย
ไม่ชอบทำงานหนัก ผลที่เห็นอยู่ก็คือ
มีแรงงานต่างชาติเข้ามารับจ้างทำงานตามบ้านและโรงงานนับแสน
คนไทยก็เลือกทำแต่งานที่สบาย หรือค่อนข้างสบาย เช่น รับจ้างขับรถตามบ้าน
รับจ้างขายของตามร้านสรรพสินค้าปรับอากาศ ฯลฯ
ส่วนคนจีนที่หอบเสื่อหนึ่ง
ผืนหมอนหนึ่งใบมาตั้งตัวในเมืองไทยสมัยนั้น
ก็กลายเป็นเจ้าสัวเป็นเศรษฐีเห็นอยู่มากมาย เพราะความอดทน บากบั่น
สู้กับความยากลำบาก เช่นเจ้าสัวอื้อจือเหลียง พูดกับคนที่ไปขอเงินท่านว่า “เมืองไทยหาเงินง่ายจะตาย ทำไมจะต้องมาขอ
ไปที่กองขยะเก็บกระป๋องนมใบหนึ่งแล้วเอาดินใส่ เอาเม็ดมะม่วงในกองขยะเสียบไว้
ไม่ช้าก็จะเป็นต้นมะม่วงให้ขายได้
เมื่อครั้งท่านสร้าง สวางคนิวาสน์ (สานพักฟื้นของสภากาชาดไทย จ. สมุทรปราการ)
ท่านให้คนไปหาซื้อต้นมะม่วงมาปลูก ได้รับรายงานว่าต้นละ 50 บาท
ท่านจึงบอกให้เอากระบุงไปขอเม็ดมะม่วงจากแม่ค้าที่ขายข้าวเหนียวมะม่วงสวางคนิวาสน์
ก็ทีต้นมะม่วงมากมาย โดยไม่ต้องลงทุน
ความชอบสบายนี่เอง
ทำให้คนขวานขวายหาซื้อเครื่องบำรุงบำเรอความสุข เครื่องปรับอากาศ รถยนต์
เครื่องเล่นซีดี คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เป็นสาเหตุของการฉ้อราษฎร์บังหลวง
ความชอบสบายทำให้เกิดหนี้สิน คือ อยากได้ของใช้นั้นมาเร็วก็ซื้อแบบผ่อนส่ง
แน่นอนดอกเบี้ยไม่น้อย ถ้าไม่ผ่อนตามสัญญา เจ้าของสินค้าอาจริบของนั้นคืนไปได้
การทำไร่นาสวนผสมต้องลงทุนลงแรงใช้เวลาดูแลต้นไม้ผักพืชสวนครัว
ที่เก็บเกี่ยวได้ในระสั้น ต้องเก็บนำไปขายหรือหาคนมารับซื้อที่ไร่
ต้องคอยกำจัดวัชพืช พรวนดินและใส่ปุ๋ย ซึ่งเป็นงานที่ต้องทำแทบทุกวัน
ไม่เหมือนปลูกมันสำปะหลัง ปลูกอ้อย ปลูกข้าว ปลูกเสร็จก็คอยวันเก็บเกี่ยว
ความนิยมในเรื่องต่างๆที่กล่าวมาควรได้รับการเปลี่ยนแปลง
มิฉะนั้นเราก็จะไม่มีเงินเก็บออม ซึ่งอาจนำไปลงทุนหรือใช้ยามที่ครอบครัวเกิดวิกฤตได้
อ้างอิง
รศ. ดร. ทวีรัสมิ์ ธนาคม.(2547).เรื่องเล็ก..ที่เป็นเรื่องใหญ่.
พิมพ์ครั้งที่ 1.กรุงเทพฯ:ไพร์ม ทีม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น